บทความที่ได้รับความนิยม

วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

พระบรมราโชวาท

ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ลักษณะการแต่ง ร้อยแก้วเชิงเทศนาโวหาร

จุดประสงค์ในการแต่ง เพื่อให้พระราชโอรสที่เสด็จไปทรงศึกษา ณ ต่างประเทศ ได้ประพฤติปฏิบัติตาม

เนื้อหา
ในการไปศึกษา ณ ต่างประเทศให้ประพฤติตามโอวาท ๗ ประการ ดังต่อไปนี้ ประการแรก ไม่ให้ไว้ยศเป็นเจ้าเพราะไม่เป็นประโยชน์แก่ตนเองมีแต่จะทำให้สิ้นเปลืองที่ต้องรักษาฐานะของตน ที่ส่งให้มาเรียนนี้มุ่งแต่ให้ได้วิชาความรู้เท่านั้น ประการที่ ๒ เงินที่จะใช้สอยในการเล่าเรียนเป็นเวลา ๑๐ ปี จะพระราชทานให้องค์ละ ๓,๖๐๐ ปอนด์ ซึ่งเป็นเงินจากพระคลังข้างที่คือเงินส่วนพระองค์ไม่เกี่ยวข้องกับเงินของแผ่นดิน เพื่อไม่ให้เป็นที่ครหาได้ ประการที่ ๓ การที่จะได้ทำราชการที่มีเกียรติจะต้องเป็นผู้ที่มีสติปัญญาความรู้ ฉะนั้นจงอุตสาหะเล่าเรียนด้วยความเพียรอย่างยิ่งให้สำเร็จให้จงได้ ประการที่ ๔ อย่าถือว่าเป็นลูกพระเจ้าแผ่นดิน ทำอะไรได้ตามอำเภอใจ ถ้ากระทำความผิดจะได้รับโทษ จงเป็นคนอ่อนน้อม ว่าง่ายสอนง่าย ประพฤติแต่ในสิ่งที่ถูกที่ควรเท่านั้น ประการที่ ๕ จงใช้จ่ายอย่างประหยัดอย่าสุรุ่ยสุร่าย ให้นึกเสมอว่าตนเองเป็นคนจนมีเงินพอเลี้ยงชีวิตและรักษาเกียรติ โดยให้เขียนจดหมายภาษาไทยมาเดือนละฉบับ ถ้ารู้ภาษาต่างประเทศให้เขียนแล้วแปลเป็นภาษาไทยมาด้วย ประการสุดท้ายทรงเตือนว่าไม่ว่าจะไปอยู่ในโรงเรียนใดให้ประพฤติปฏิบัติตามแบบแผนหรือระเบียบที่เขาตั้งใว้ และตั้งใจศึกษาให้สำเร็จจะได้กลับมาช่วยกำลังพ่อ

คุณค่าทางวรรณศิลป์
ใช้ภาพพจน์อุปมาให้เกิดจินตภาพ เช่น " ชีวิตสังขารของมนุษย์ไม่ยั่งยืนยาวเหมือนเหล็กเหมือนศิลา ถึงโดยว่าจะมีพ่ออยู่ในขณะหนึ่ง ก็คงจะมีเวลาที่ไม่มีได้ขณะหนึ่งเป็นแน่แท้ ถ้าประพฤติความชั่วเสียแต่ในเวลามีพ่ออยู่แล้ว...ความชั่วนั้นคงจะปรากฎเป็นโทษติดตัวเหมือนเงาตามหลังอยู่ไม่ขาด"

ใช้โวหารเปรียบเทียบ เช่น "...ถ้าจะถือว่าเกิดมาเป็นเจ้านายแล้วนั่งๆ อยู่ตลอดชีวิตก็เป็นสบายดังนั้น จะไม่ผิดอันใดกับสัตว์ดิรัจฉานอย่างเลวนัก สัตว์ดิรัจฉานมันเกิดมากินๆ นอนๆ แล้วก็ตาย แต่สัตว์บางอย่างยังมีหนังมีเขามีกระดูกเป็นประโยชน์ได้บ้าง....เพราะฉะนั้นจงอุตสาหะที่จะเรียนวิชา เข้ามาเป็นกำลังที่จะทำตัวให้ดีกว่าสัตว์ดิรัจฉานให้จงได้..."

( คู่มือภาษาไทย ม ๑-๓ ของ รศ. วิเชียร เกษประทุม )